Legal-MG

แอนน์ แฮททาเวย์ (Anne Hathaway) นักแสดงสาวตาสวย ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 41 ปีแล้ว แต่เธอยังคงรักษาเสน่ห์และทักษะการแสดงไว้อย่างไม่ขาดตอนและอีกไม่นานเธอก็จะมีผลงานใหม่ เป็นหนังโรแมนติกเรื่องใหม่ในชื่อ ‘The Idea of You’ เข้าฉายทางช่องสตรีมมิ่ง Prime วันที่ 2 พฤษภาคมนี้ แรงพอที่จะการันตีคะแนนเต็ม 100% จากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes แต่ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ ไม่น่าเชื่อว่า เธอเองก็เคยประสบกรรมจากการถูกกลุ่มคนที่เกลียดชังเธอโจมตีมาก่อน แม้ว่าแฮธาเวย์จะเพิ่งได้รับรางวัลออสการ์ในขณะนั้นก็ตาม

จุดเริ่มต้นของความเกลียดชั่ง

ย้อนกลับไปกว่า 10 ปีที่แล้ว แม้ว่าแฮธาเวย์จะเป็นนักแสดงที่ได้รับการยอมรับในทักษะของเขาอยู่แล้ว แต่หลังจากที่เธอได้แสดงในบทบาท แฟนทีน ในละครเพลงแนวย้อนยุคของผู้กำกับ ทอม ฮูเปอร์ เรื่อง Les Misérables (2012) ทั้งเรื่อง ภาพยนตร์และการแสดงของเธอ ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์เป็นอย่างมาก และส่งหนังเข้าชิง 8 รางวัลออสการ์ คว้า 3 รางวัล โดย 1 ในนั้นเป็นรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมคนแรกในชีวิตของแฮทธาเวย์

แต่ทางฝั่งผู้ชมกลับไม่คิดเช่นนั้น การแสดงของเธอถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ชมบางคนที่มองว่าบทบาทของเธอน่ารำคาญ มันบานปลายจนกลายเป็นความคิดเห็นเชิงลบ ทั้งจากรางวัลออสการ์ที่เธอได้รับ รวมถึงประเด็นเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ จนแพร่กระจายจนกลายเป็นกลุ่มคนในโลกออนไลน์ที่ถูกขนานนามว่า “Hathahate”

แอนน์ แฮททาเวย์ กับบทสัมภาษณ์ล่าสุด

ในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vanity Fair ฉบับล่าสุดที่ผมได้มีโอกาสขึ้นปก ฮาธาเวย์มีโอกาสเปิดเผยช่วงเวลาที่เธอเผชิญกับความกดดันจากความเกลียดชังที่เข้ามาหาเธอ และจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอเอาชนะความเจ็บปวดเหล่านั้นได้คือการแสดงในบทบาทของ ดร.อมีเลีย แบรนด์ นักบินอวกาศและนักวิทยาศาสตร์ที่ NASA ในภาพยนตร์ไซไฟอวกาศ ‘Interstellar’ อินเตอร์สเตลลาร์ ทะยานดาวกู้โลก (2014)

โนแลนไม่สนใจกระแสด้านลบดึง แฮททาเวย์ เข้าร่วมแสดง

ซึ่งเธอได้เปิดเผยแม้กระทั่งก่อนหน้านี้ ความเกลียดชังก็ทวีความรุนแรงจนก่อนหน้านี้เธอสูญเสียบทบาทการแสดงไประยะหนึ่ง แต่ผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน เป็นคนตัดสินใจเลือกเธอมารับบทนี้โดยไม่สนใจความเกลียดชังใดๆ เลย และบทบาทนี้ก็ได้รับคำชมไม่น้อย เปลี่ยนแปลงให้กระแสความเกลียดชังอ่อนลง ทำให้เธอกลายเป็นดาราดังอีกครั้ง

“ผู้คนจำนวนมากไม่ยอมให้ฉันได้รับบทนี้ เพราะพวกเขากังวลว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ตนเองอันเป็นพิษของฉันจะรั่วไหลทางออนไลน์ แต่ฉันค้นพบคริสโตเฟอร์ โนแลนผู้ใจดีคนหนึ่ง ซึ่งไม่สนใจเรื่องนั้น และมอบบทบาทที่สวยงามที่สุดให้กับฉัน ในหนังที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งที่ฉันเคยแสดง ฉันไม่รู้ว่าเขารู้หรือเปล่าว่าเขาคอยสนับสนุนฉันในเวลานั้น เพื่อไม่ให้เสียสมดุลในอาชีพการงานของฉันมากเกินความจำเป็น ในกรณีที่เขาไม่มาสนับสนุนฉัน”

‘Hathahate’ อธิบายถึงกลุ่มคนในโลกออนไลน์ที่แสดงความเกลียดชัง Hathaway อย่างโจ่งแจ้ง โดยเฉพาะตอนที่เธอแสดงในงานนี้ และบทบาทนี้ยังทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์และออสการ์อีกด้วย รวมถึงรางวัลลูกโลกทองคำ, MTV Movie & TV Awards และ SAG Awards และเวทีอื่นๆ อีกมากมาย ในขณะเดียวกันบทบาทของเธอก็ถูกชาวเน็ตมองว่าน่ารำคาญ มากจนผู้คนเขียนบทความออนไลน์เพื่ออธิบายว่า ‘ทำไมทุกคนถึงเกลียดแอนน์ แฮทธาเวย์’

และในปี 2015 เว็บไซต์ BuzzFeed ยังเขียนบทความที่อธิบายว่าเกลียดเธอในชื่อ ‘Anne Hathaway Syndrome’ หรืออธิบายปรากฏการณ์ของการเกลียดผู้หญิงที่สวยและประสบความสำเร็จ แต่บางคนกลับรู้สึกไม่พอใจ จนเกิดความอิจฉาริษยา เกลียดชัง โดยไม่มีเหตุผล

เกลียดชังโดยไม่มีเหตุผลต่อแฮททาเวย์

ก่อนหน้านี้ แฮททาเวย์ ได้เปิดเผยว่าในตอนแรกเธอไม่ชอบมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ผู้คนรำคาญกับสิ่งที่เธอพูด คิด ทำ หรือแม้แต่รำคาญเกี่ยวกับชีวิตที่สมบูรณ์แบบของเธอ เวลาพูดถึงและคิดถึงเรื่องนั้น เธอมักจะพยายามมองในแง่ดีอยู่เสมอ แต่ต่อมาเธอเองก็ยอมรับว่า ความกดดันที่เกิดขึ้นหลังคว้ารางวัลออสการ์ทำให้เธอตกใจและเจ็บปวด จนกระทั่งเธอได้เปิดเผยเรื่องนี้ในงาน Women in Hollywood ของนิตยสาร Elle ในปี 2022

“สิบปีที่แล้ว ฉันมีโอกาสได้สัมผัสกับคำพูดแห่งความเกลียดชังจากมุมมองที่แตกต่าง ทันใดนั้นความเจ็บปวดที่คุณก่อก็กลับมาหาฉันในรูปแบบของอินเทอร์เน็ต อะไรๆก็ผ่านไปแล้ว. ฉันรู้ว่าฉันไม่ต้องการที่จะเกี่ยวข้องกับพลังงานประเภทนี้ เพราะไม่อย่างนั้นผมคงจะเลิกสร้างงานศิลปะในวงการนี้แล้ว ฉันไม่สามารถยืนที่นี่ และคงอยู่ด้วยความหวาดกลัว ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับใครเลย แม้แต่ตัวฉันเอง สำหรับฉัน ความเกลียดชังเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับชีวิต บนพื้นดินแข็งๆ ไม่มีอะไรจะเติบโตและเจริญงอกเงยขึ้นมาได้”

แฮททาเวย์ทิ้งท้ายในบทสัมภาษณ์

แฮททาเวย์ ทิ้งท้ายการสัมภาษณ์ด้วยการพูดถึงการรับมือกับความกดดันที่เขาเผชิญ นั่นทำให้เธอผ่านมันมาได้ด้วยดีในที่สุด

“การถูกเกลียดชังเป็นเรื่องยากที่จะเผชิญ สิ่งสำคัญคืออย่าปล่อยให้มันปิดกั้นคุณ คุณต้องเข้มแข็ง. และคุณต้องมีความกล้า ซึ่งเป็นเรื่องยาก เพราะคุณชอบแบบนั้น ‘ฉันจะอยู่ตรงกลางถ้าฉันไม่ให้ความสำคัญกับตัวเองมากเกินไป’ มันอาจจะไม่เจ็บ’”

“แต่ถ้าคุณต้องการทำเช่นนั้น เอ่อ อย่าเป็นนักแสดงนะ คุณกลายเป็นนักเดินไต่เชือก คุณจะบ้าหรืออะไรก็ได้ แต่คุณกำลังขอให้เขาลงทุนเวลา เงิน ความสนใจและความเอาใจใส่ในตัวคุณ ดังนั้นคุณต้องมอบสิ่งที่คุ้มค่าให้กับพวกเขาทั้งหมด หากคุณไม่เต็มใจที่จะแลกเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้น แล้วคุณจะแลกเปลี่ยนเพื่ออะไร”